Hetalia Mochi - Romano

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

 


คำนามนับได้ (Countable Noun)

คือ คำนามที่เราสามารถระบุได้ว่ามี กี่ชิ้น กี่อัน กี่ตัว กี่แห่ง ฯลฯ

เช่น   ดินสอ 5 แท่ง     —— 5 pencils

หนังสือ  8  เล่ม   ——  8 books

บ้าน 1 หลัง        ——- a house

จะเห็นได้ว่าคำนามข้างต้นพวก ดินสอ หนังสือ บ้าน นี้ เป็นคำนามนับได้ค่ะ เพราะเราสามารถระบุจำนวนของสิ่งนั้นๆได้ว่ามีเท่าไหร่

ซี่งคำนามนับได้ (Countable Noun) จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ คำนามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์ ที่เราได้อธิบายไปแล้วใน part 1 นั่นเอง สามารถคลิ๊กและกลับไปอ่านดูได้เลยค่ะ

คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)

คือ คำนามที่เราไม่สามารถระบุจำนวน หรือบอกว่ามีกี่ชิ้นกี่อันได้ อาทิ ของเหลวต่างๆ  เช่น นม น้ำ ไวน์ หรือ ข้าว น้ำตาล หรือของที่มีปริมาณมากๆ เช่น ผม  ฟางหญ้า เป็นต้น  จะให้เราพูดว่า ขอข้าว 2 เม็ดจ้า หรือ ขอนม 3 หยด ก็กระไรอยู่จริงมั้ยล่ะคะ ฝรั่งเลยกำหนดคำพวกนี้เป็นคำนามนับไม่ได้


การใช้ this/that and these/those

 

มีใครเคยสงสัยบ้างหรือไม่ ว่าเราจะใช้ this และ that - these/those เมื่อไหร่ และใช้อย่างไร

มันอาจจะเป็นอะไรที่ดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่จากประสบการณ์ของเอมแล้ว ยังคงพบการใช้ผิดบ่อยมากๆค่ะ

วันนี้สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจ เอมมีคำตอบมาฝากค่ะ

ในเกณ์การใช้ที่เรานึกถึงขั้นแรกสำหรับ this และ that ก็คือ สองตัวนี้นั้นใช้ในกรณีที่สิ่งที่เราพูดถึงเป็นเอกพจน์ (สิ่งเดียว อันเดียว)

ส่วน these และ thoseในกรณีที่เราพูดถึงสิ่งที่เป็นพหูพจน์ (มากกว่าหนึ่งขึ้นไป)

และอีกเกณฑ์ที่สำคัญคือ เราใช้ this/these เราใช้เพื่อกล่าวถึงคน สิ่งของ สถานการณ์ และประสบการณ์ที่อยู่ใกล้กับตัวผู้พูดเอง

หรือ ในเวลาอันใกล้ และเราใช้ that/those เพื่อกล่าวถึงคน สิ่งของ สถานการณ์ที่อยู่ไกลออกไป ทั้งเชิงกายภาพและเชิงเวลา

 

ตัวอย่างการใช้

  •         This game is a great game. (เรากำลังดูการแข่งขันอยู่)
  •         That game was a great game. (การแข่งขันจบลงไปแล้ว)
  •         These doughnuts are good. (เรากำลังทานโดนัทอยู่ หรือ เรากำลังพูดถึงโดนัทที่อยู่ตรงหน้าของเรา)
  •         Those buildings are tall, but that building is the tallest. (เรากำลังมองออกไปยังกลุ่มตึกระฟ้า และก็ชี้ไปยังตึกๆนึกที่สูงที่สุด)


การใช้ must และ mustn’t

จดจำคำแปลต่อไปนี้ให้แม่นเลยนะครับ โดยเฉพาะคำว่า musn’t

  • must อ่านว่า มัสทึ แปลว่า ต้อง
  • mustn’t อ่านว่า มัสเซินทึ แปลว่า ต้องไม่

mustn’t แปลว่า ต้องไม่ ถ้าแปลว่า ไม่ต้อง มันจะไปคนละเรืองเลย

การใช้ must

ใช้แสดงถึงความจำเป็น หรือสำคัญ ในมุมมองของคนพูด

  • It’s dark now. We must stay here tonight.
    มันมืดแล้วตอนนี้ พวกเราต้องพักที่นีคืนนี้
    (ฉันคิดว่ามันอันตราย ถ้าเดินทาง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพักก่อน
  • You look pale. You must see a doctor.
    คุณดูซีดเซียว คุณต้องพบหมอนะ
    (ฉันดูแล้วคุณคงไม่ไหว จำเป็นต้องพบหมอ ไม่งั้นคงไม่ดีขึ้นแน่นอน)
  • It’s going to rain. I must go home now.
    ฝนกำลังจะตก ฉันต้องกลับบ้านตอนนี้เลย
    (ฉันว่าถ้าไม่กลับตอนนี้ ฝนคงจะไล่ทัน)
  • You must eat more vegetables and do some exercises.
    เธอต้องกินผักให้มากขึ้นและออกกำลังกาย
    (ร่างกายของคุณดูแย่ ถ้าคุณไม่เชื่อผม สุขภาพคุณจะแย่ขึ้นเรื่อยๆ เชื่อหมอ)
  • I must finish my homework first and then I will watch TV.
    ฉันต้องทำการบ้านให้เสร็จก่อน แล้วฉันจะไปดูทีวี
    (ฉันคิดว่าถ้าไม่ทำให้เสร็จก่อน เดี๋ยวดูเพลิน การบ้านจะไม่ได้ทำ
  • Fast and Furious 9 were partly filmed in Thailand. I must watch it.
    หนัง เร็วแรงทะลุนรก 9 บางส่วนถ่ายทำในไทย ฉันต้องดูให้ได้เลย
    (เป็นหนังที่ดีมาก สนุกตื่นเต้น ฉันไม่เคยพลาดสักภาค ยิ่งถ่ายในไทยด้วยแล้วเนี่ย..)

  คำนามนับได้ (Countable Noun) คือ คำนามที่เราสามารถระบุได้ว่ามี กี่ชิ้น กี่อัน กี่ตัว กี่แห่ง ฯลฯ เช่น   ดินสอ 5 แท่ง     —— 5 pencils หนัง...